ที่ผ่านมาเป็นแค่ บททดสอบ ตลอดระยะเวลา ๔ เดือนคือตั้งแต่ มีนาคม-มิถุนายน เป็นบททดสอบทั้งกายและใจ พอย่างเข้าเดือนกรกฎาคม หนทางอันหฤโหด ที่เป็นเรื่องเล่าขาน ต่อกันมานานหลายปีได้เริ่มขึ้นในการเดินทางของผมแล้ว
การเดินทางครั้งนี้เริ่มจากครูกำจัด ที่เป็นครูนิเทศก์กลุ่มแม่ฮองได้ มานิเทศก์ บ้านมะหินหลวง ทีเนอะ ทีลอง ศาลาเท แม่ละเอ๊าะ ต่อมายังบ้านแม่เกิบ แม่ฮองกลาง แม่ฮองใต้ และบ้านห้วยหวาย เป็นบ้านสุดท้าย คณะครูตามรายทางจึงได้เดินทางพร้อมกับครูใหญ่
คำเรียกครูใหญ่ เป็นการให้เกียรติครูนิเทศก์ เนื่องจากเป็นผู้มีประสบการณ์มายาวนานในการทำงานบนพื้นที่สูง ที่พร้อมจะให้คำแนะนำน้อง ๆ ครูรุ่นใหม่ที่เข้าไปแทนที่คนเก่า
ครูใหญ่และพวกเรา ได้ประชุมหารือการเดินทางออกจากพื้นที่ได้ข้อสรุปว่า จะพาคณะครูจาก ศาลาเท แม่ละเอ๊าะ ไปสำรวจเส้นทางกลุ่มผีปาน โดนเส้นทางกลุ่มผีปานนี้ผมใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกประจำ แต่ครูจากศาลาเท และแม่ละเอ๊าะจะใช้เส้นทางบ้านนาเกียนแทน
ครูทั้งหมด ๗ คนจาก ๕ ศูนย์การเรียน ของการเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางท่ามกลางฤดูมรสุม ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ความลำบาก และการช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน เป็นอีกบททดสอบ ของการเป็นครูดอย
ภาพที่นำเสนอเป็นแค่บางส่วน จากกล้องครูเอฟ ส่วนกล้องของผม เก็บอย่างดี ด้วยเหตุผลเหนื่อยจนไม่มีแรง ที่อยากจะหยิบกล้องออกมาเก็บภาพ
จากนี้ไปตลอด ๔ เดือนคือกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน และตุลาคม หรืออาจจะยาวถึงพฤศจิกายน คงเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานกับการเล่นโคลน และเหนื่อยพอสมควร
ใครจะไปคิดว่า ที่คนกรุงเทพฯ เอาโคลนพอกหน้า ราคาแสนแพง
แต่ที่อมก๋อย ครูดอยเอาโคลนเป็นตัวสร้างกำลังใจ และแรงกายสำหรับวันต่อไป ในราคาที่ไม่ต้องจ่าย