ประสบการณ์สมัยเป็นเด็ก ของเด็กบ้านนอกเคยโดนปลิงกัด ปลิงเป็นสัตว์น้ำ ไร้กระดูกสันหลัง ที่คอยดูดเลือกจากวัวควาย ที่ลงไปกินน้ำ เล่นน้ำ ซึ่งสมัยเป็นเด็ก อยู่บ้านนอกเห็นเป็นประจำ ทำให้ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ กับการถูกปลิงกัด เพราะกัดไม่เจ็บ พอเอาตัวปลิงออกจากขา ๕-๑๐ นาทีเลือดก็หยุดไหล
ทาก เป็นสัตว์คล้ายปลิง ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่มันอาศัยอยู่บนบก ที่ชุ่มชื่น แฉะ ทากเป็นสัตว์ที่ร้ายกาจ เข้ามากัดโดยไม่รู้ตัว และไม่เจ็บ เมื่อทากกัดทากจะปล่อยสารเคมีในตัวชนิดหนึ่ง ออกมาใส่บาดแผลที่มันกัด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด กว่าเลือกจะหยุดไหลอาจจะต้องใช้เวลา ๔ – ๘ ชั่วโมง
ผม ถูกทากกัดเมื่อหลายปีก่อนโน้น สมัยยังเป็นวัยรุ่น ไปเที่ยวภูกระดึง นั่นทำให้ผมได้รู้จักกับเจ้าสัตว์ไร้กระดูกสันหลัง หรือที่ผมจะเรียกมันว่า “ปลิงบก” เป็นครั้งแรก
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมได้เดินเท้าไปบ้านห้วยหวายเป็นระยะทางประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นทาก ที่อำเภออมก๋อย ไปอยู่ไชยปราการ ๒ ปีกว่า ไมเคยเห็นทากสักตัว การเดินทางไปครั้งนี้จึงเป็นการไปอย่างระมัดระวัง “ทาก” อย่างเป็นที่สุด ครู ๒ คน นักเรียน ๒ คน รวม ๔ คน ต่างนับทาก แข่งกันว่าใครจะถูกทากเกาะ มากที่สุด สรุปได้ดังนี้
ครูจะแนะ ไปถูกทากเกาะ ๗-๙ ตัว ต้อมครูดอย ไปถูกทากเกาะ ๙ ตัว กลับ ถูกเกาะ ๒ ตัว รวม ๑๑ ตัว นักเรียนชื่อโจเปา ไปถูกทากเกาะ ๑๐ ตัว กลับ ถูกทากเกาะ ๓ ตัว รวม ๑๓ ตัว นักเรียนชื่อกาแคว ไปถูกทากเกาะ ๘ ตัว กลับ ถูกทากเกาะ ๑ ตัว รวม ๙ ตัว
ในการเดินทางไปบ้านห้วยหวายเมื่อเดือนกันยายน ไม่มีใครถูกทากกัดให้เลือดตกยางออกสักคน เพราะเราได้ระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี เกาะเมื่อไหร่ เราก็แกะมันออก
ขึ้นดอยเดือนตุลาคม กับครูจะแนะ ๒ คน ไปแบบไม่รีบ ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ตามประสาคนสูงวัย เมื่อไปถึงบ้านแม่ฮองกลางผมต้องตกใจ เมื่อมีเลือดเลอะเต็มต้นขากางเกงด้านซ้าย
เมื่อมาพิจารณาดู แล้ว ผมว่าผมโดน “ทากกัด” เป็นครั้งที่ ๒ ในชีวิตเข้าให้แล้ว และมันกินเลือดจนอิ่มแล้ว ก็สลัดออกไปจากตัวผม ครั้งนี้ใช้เวลานานมากกว่าเลือดจะหยุดไหล เช็ดล้างแล้ว ก็ยังไหลออกมาอยู่เรื่อย ๆ ผ่านไปประมาณ ๔-๕ ชั่วโมงเลือดจึงหยุดไหล
เมื่อลงดอยเดือนตุลาคม มากับครูเล้ง ศศช.บ้านแม่เกิบ ๒ คน รถล้มไป ๑ ครั้ง ผมว่าผมแค่รถลื่นล้มธรรมดา รู้สึกว่าแค่เจ็บไหล่ซ้าย เพราะลงด้านซ้ายพอดีผมไม่ได้กังวลใจอะไรทั้งสิ้น จนเมื่อลงดอยมาได้ ๒-๓ วัน ขณะอาบน้ำ ถึงได้รู้ซึ้งว่า ผมไม่สามารถเอื้อมมือซ้ายไปฟอกสูบฟากไหล่ขวาได้
เจ็บนี้คงจะ เป็นการชดใช้กรรม หนี้เลือดและหนี้ชีวิตให้กับทากและปลาดุก ที่เด็ก ๆ เลี้ยงไว้ เมื่อผมขึ้นดอยไป ผมให้เด็ก ๆ จับปลาดุกในบ่อ มาทำเป็นอาหารกลางวัน
ขึ้นดอยเดือนพฤศจิกายนนี้ผมจึงต้องไป กับแผลซ้ำ ๆ จากทากกัด และอาการเจ็บหัวไหล่ซ้าย อยู่นิด ๆ โดยไม่ได้ไปหาหมอ หรือซื้อยามาทา นอกจากยาแก้ปวดที่กินเป็นบางเวลา
พร้อมกับได้เรียนรู้จากร้านข้าวตามสั่งว่า “หากจะป้องกันทาก ให้เอายาสูบ ผสมน้ำนิดหน่อย แล้วเอาทารอบ ๆ ขาก่อนขึ้นดอย”
(ยาเส้น, ยาฉุน, ยาสูบ, บุหรี่ คือสิ่งเดียวกัน อันเดียวกัน แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่จะเรียก และบรรจุภัณฑ์)