ภาพและเนื้อหาฉบับเต็ม ๆ อยู่ที่ http://in-my-mind.diaryis.com/2011/12/24 โดย คุณหมอนาน่า ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒
เช้าวันที่ 5 ตื่นเร็วกว่าเมื่อวาน ยังมืด ๆ อยู่เลยออกมานั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ^^
นั่งเล่นเงียบๆซักพัก แม่ก็เดินออกมานั่งใกล้ๆ พร้อมถือหม้อออกมาใบนึง แม่เปิดออกมา ก็เห็นว่าเป็นอะไรซักอย่าง ที่เหมือนรากไม้ต้ม อารมณ์ประมาณโสมทำนองนั้น ไอ้เราก็คิดว่ามันเป็นยา มันต้องขมแน่ๆเลย
แม่ก็ชวนกิน หมูก็ทำหน้าปุเลี่ยน ๆ ถามแม่ว่าอร่อยมั๊ย ขมรึเปล่า กินยังไง แม่ก็ลอกเปลือกให้ดู อ๋อออ….. หน้าตามันเหมือนมันฝรั่งจิ๋ว ๆ รสชาติก็คล้ายๆกันค่ะ มันๆ กินเพลินๆ
กินไปซักพัก แม่บอกว่าลองกินแบบไม่ลอกเปลือกดูสิ อ่ะ … จัดไปตามใจแม่ 1 อัน แต่ปรากฏว่า มันไม่อร่อยง่ะเปลือกมันเคี้ยวไม่ออก เลยบอกแม่ว่าขอลอกเปลือกเหมือนเดิมละกัน 555++
นั่งแทะกันอย่างเมามัน คุณพ่อคนนี้ก็อุ้มเด็กน้อยมาบนบ้าน ต้องบอกนิดนึงว่า คนในหมู่บ้านนี้ค่อนข้างจะใกล้ชิดกันมากค่ะ เค้าสามารถเดินขึ้นบ้านนู้นทักทายบ้านนี้ได้หมด หมูว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมากๆเลยล่ะ
อ่ะ เล่าต่อ … พอคุณพ่ออุ้มน้องขึ้นมานั่งเล่นบนบ้าน ซักพักแม่ก็แบ่งไอ้หัวๆเมื่อกี๊นี้ไปให้เค้าทาน (ลืมถามแม่อ่ะว่าเค้าเรียกอะไร -*-) ปรากฏว่า เจ้าตัวเล็กก็หยิบมาปอกอย่างชำนาญ ปอกเสร็จ เอาเข้าปาก โยนเปลือกทิ้ง เหมือนผู้ใหญ่ทำทุกอย่างเลย แถมถ้าปอกอนใหม่เสร็จแต่ยังเคี้ยวอีนเก่าไม่หมด ก็ยื่นอันที่ปอกเสร็จแล้วไปให้พ่อ ตัวเองกินคำ ให้พ่อกินคำ …. เป็นภาพที่น่ารักมากๆเลย >.<
พอสมาชิกทุกคนตื่นพร้อมกันแล้ว ก็เป็นเวลาอาหารเช้า ยกกับข้าวออกมาทานนอกบ้านเหมือนเคย วันนี้ หมูขอกลมกลืนกับพ่อและแม่ ด้วยการทานข้าวในกระด้งด้วยคน ^^ น้ำพริกหนูเมื่อคืนยังเหลืออยู่ .. เช้านี้เอามาหม่ำต่อ อาหย่อยยย ^^
ทานข้าวเสร็จแล้ว ก็มารวมตัวกันที่ รร.เช้านี้ มีกิจกรรมดี ๆ เรียกว่า ” ๓๖๕ วัน ถักอุ่นให้คลายหนาว” นำทีมโดย ครูน้อยหน่า และครูเพียร รวบรวมผ้าพันคอและหมวกจากเพื่อนๆมาแจกให้เด็กๆค่ะ แล้วก็ยังมีกลุ่มครูปุ้ยครูต้น นำรองเท้าและของเล่นมาแจกเด็กๆ
หลังจากแจกของเสร็จ ..ก็เป็นกิจกรรมไปน้ำตกค่ะ แต่หมูไม่ได้ไปด้วย เพราะมีภารกิจทำกับข้าวอีก 1 วัน
ทางไปก็คือ เดินย้อนตามทางที่เรานั่งเข้ามานี่ล่ะค่ะ ระยะทางก็ …. ประมาณ 30 หอบ 5555555++ ตอนเช้าที่นั่งคุยกัน ครูอีกคนก็ถามแม่ว่า “แม่ไปน้ำตกด้วยกันมั๊ย” แม่ส่ายหัวแล้วบอกว่า “อื๊อ ไม่ไป ไกล!!” 5555++ ขนาดคนท้องที่ยังบอกไกล แล้วชาวกรุงอย่างเราจะไปเหลืออะไร T_______T
แต่ขอบอกว่า …เป็น 30 หอบที่คุ้มสุดๆนะคะ น้ำตกสวยมาก ๆ แถมรอบนี้ ครูต้อมบอกว่าช่วงพายุนกเต็นเข้า ทำให้น้ำตกบางส่วนถล่มลงมา ร่องน้ำก็ลึกขึ้น กับท่อนไม้ที่เคยใช้เดินข้ามก็โดนพัดหายไป การไปน้ำตกก็ยิ่งเพิ่มความ adventure ไปอีก 2 Level เพราะต้องไต่เชือกเดินข้ามน้ำลึกประมาณเอวไป
ส่วนเรื่องความสวยงาม..เห็นครูเก่าๆ comfirm ว่าน้ำตกครั้งนี้ สวยกว่าครั้งไหนๆที่เคยไป หมูฟังๆเค้าเล่าแล้วก็ยังอยากไปเห็นเองเลย ^^ แอบเสียดายนิดนึงที่ไม่ได้ไปน้ำตก แต่ก็ไม่เป็นไร …เพราะอยู่ที่หมู่บ้านก็ได้สนุกเหมือนกัน ^^
กิจกรรมหลักของหมูวันนี้ก็คือ ทำกับข้าวอย่างเคย โดยมีครูเฉดกับครูหน่อง และเด็กๆหลายคนอยู่ช่วยทำ ระหว่างที่หมูกำลังผัดกับข้าวอยู่ในครัว เดินออกมาก็ต้องอมยิ้มกับภาพนี้
ครูเฉด … หั่นแครอทไป ก็เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้เด็กๆฟังไฟด้วย เด็กๆก็นั่งตาแป๋ว ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ครูเฉดบอกว่าเด็กๆถามเรื่องที่บ้าน ว่าเป็นยังไงอยู่ยังไง มีพี่น้องกี่คน
อ้อ … เกือบลืมเล่าเรื่องน่ารักๆอีกเรื่องนึง เด็กๆถามครูเฉดว่า “หมาที่บ้านครูพูดได้มั๊ย”ครูเฉดก็งง เด็กบอกหมาที่บ้านเค้าพูดไม่ได้ แต่ใน TV เห็นหมาที่กรุงเทพพูดได้ แล้วเค้าก็เชื่อกันอย่างจริงจังว่า หมาที่กรุงเทพพูดได้
แสดงให้เห็นถึง ความใสของเด็กๆที่นี่ ป้อนอะไรเข้าไปเค้าก็เชื่อมั่นอย่างนั้นจริงๆ ครูเฉดเลยต้องอธิบายว่า หมาที่กรุงเทพก็พูดไม่ได้ ที่เห็นใน TV คือ เค้าเอาเสียงคนไปใส่ สมมติว่าเป็นเสียงหมาพูด
ไม่ว่าครูจะขยับตัวไปทางไหน …จะมีเด็กๆมาล้อมหน้าล้อมหลัง คอยดูว่าครูทำอะไร คอยฟังว่าครูพูดอะไรกัน คอยถาม ว่านั่นคืออะไร ที่นี่เป็นยังไง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วยิ่งถ้าเราให้เด็กๆมีส่วนร่วมด้วยเค้าจะยิ่งดีใจ อย่างเช่น บอกให้ช่วยตอกไข่ ก็มะรุมมะตุ้ม สุมหัวจนหัวแทบจะโขกกัน หมูต้องบอกว่า “เอาแต่ไข่นะเด็กๆ เปลือกไม่เอา” 555555++
ในครัว …. ผัดกะหล่ำปลีเต็มหม้อ เยอะขนาดต้องใช้ 2 แรงแข็งขัน แตะมือสลับกัน
ทำกับข้าวจนลืมเวลา รู้ตัวอีกที ต่างคนต่างหิวจัด เดินไปบอกเด็กๆที่บ้านว่า …เที่ยงนี้กลับบ้านหาอะไรกินเองไปก่อนนะลูก ครูไม่ไหวจะกลับไปทำแหล่วว
ส่วนตัวครูๆขอพึ่งพาอาหารจานด่วน ต้มด่วน กินด่วน … หมดอย่างรวดเร็ว T________T
กินเสร็จแล้วก็กลับไปทำกับข้าวต่อ ระหว่างรอน้ำเดือด ผักสุกก็ออกมาเดินเตร็ดแตร่ข้างนอก เห็นหนุ่มน้อยคนนี้ … ใส่เสื้อที่เพิ่งได้รับแจกมา เดินไปพับแขนเสื้อไป น่ารักดี เลยจับมาถ่ายรูปคู่ด้วยซะเลย
เสร็จจากภารกิจทำกับข้าว ครูเฉดก็จับเด็กๆอาบน้ำต่อ เห็นครูเฉดสนุกสนานกับการอาบน้ำ หมูก็เลยลงไปแจมด้วย …. เป็นการอาบน้ำที่สะใจมาก เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ระหว่างก่อนกับหลังฟอกสบู่ … สบู่สีขาว แต่ฟอกออกมาได้ฟองสีน้ำตาล 5555++
หมายมั่นปั้นมือว่า …ขึ้นไปคราวหน้าจะเอาแปรงขัดเล็บไปด้วย
ตอนสระผมนี่ … ถ้าแจคพอตเจอเด็กเป็นเหานะคะ พอราดน้ำลงไป ไข่เหาก็จะลอยฟ่องขึ้นมา 55555++
คือ ส่วนใหญ่ก็จะมีไม่มากก็น้อย แต่คนที่เยอะมากๆเนี่ย …ลอยเป็นแพเหมือนไข่กบเลยทีเดียว ประมาณว่า ผมเส้นนึงมีไข่ 5 ฟอง ไรเง้ T_____T
นาทีนั้น โหยหาหวีเสนียดขึ้นมาจับใจ 55++ สระไปก็หมายหัวไว้ คนไหนเหาเยอะๆ อาบน้ำเสร็จเจอกัน!!
ส่วนครูเฉดเจอแจคพอตกว่า …ราดน้ำไป เหาเป็นตัวๆหลุดตามน้ำมาเกาะที่มือ 555++ จับเด็กสระผม … หลับตาพริ้มเลย ใครอาบน้ำสระผมเสร็จแล้ว … ครูเฉดก็ติดกิ๊บให้เป็นรางวัล
พอถึงเวลาที่ครูกับเด็กๆที่ไปน้ำตกกลับมาถึง ก็ทำการแจกกับข้าวค่ะ วันนี้ทำ 3 อย่าง … ซุปไก่ วุ้นเส้นผัดกะหล่ำปลี แล้วก็กะหล่ำดอกผัดกับหมูสับค่ะ แจกอาหารเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ทานข้าวเย็นร่วมกับที่บ้าน
จากนั้นก็เป็นพิธีกลางคืน … หมูไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกตามเคย ขอขโมยรูปจากเพื่อนครูมาเล่าให้ฟังละกัน
เริ่มจากการแสดงของเด็กๆ ทั้งหมด 4 ชุด อำนวยการแสดงโดย ครูยี่โจ … ครูที่มาประจำอยู่ที่หมู่บ้านตอนนี้ค่ะ
จากนั้นก็เป็นพิธีถวายพระพรร่วมกันระหว่างครู เด็กๆ และ ชาวบ้าน เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวา ต้องขอบอกว่า …. เป็นการถวายพระพรที่กินใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของหมูเลย
ไม่ต้องมีเสียงสีเสียงตระการตา ที่นี่มีเพียงแสงจากเทียนไข ประทีปและแสงจันทร์ ไม่ต้องมีการจุดพลุอลังการที่สุดในประเทศ มีแค่เพียงไฟเย็นแท่งเล็กๆ ในมือน้อย ๆ ของเด็ก ไม่ต้องมีคนใหญ่คนโตมาเป็นประธานในพิธี มีเพียงแต่เราและชาวบ้าน ไม่ต้องมีพิธีการยืดยาวเยิ่นเย้อ พิธีการของเรา เป็นไปด้วยความเรียบง่าย กระชับ แต่กลับซาบซึ้งกินใจจนเกือบกลั้นน้ำตาไม่อยู่
จบจากพิธีถวายพระพรก็เป็นการผูกข้อมือให้พร โดยผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน เป็นช่วงเวลาที่ซาบซึ้งเช่นกัน แต่ก็ยังมีช่วงแอบฮา เพราะ คุณลุงคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แกเมาตลอดเวลาค่ะ เวลาแกเดินมาถึงแถวครุอาสา แกก็จะพูดอะไรไม่รู้ แต่ต้องปิดท้ายด้วย “โอเค โอเค” ทุกที ครูอาสาก็ฮากันไป
คืนนี้แกก็มาโอเค โอเคในงานด้วยเหมือนกัน จนครูต้อมต้องบอกว่า “ไอ แอม น้อท โอเค” ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ฮาครืนกันทีเดียว เสร็จแล้วพอถึงช่วงผูกข้อมือ … แกก็มาคอยกำกับ คอยพากษ์อยู่ด้านหลัง ประมาณว่า พูดดังกว่าคนผูกจริงซะอีก จนครูอาสาไม่รุ้จะฟังใครดี 555+ (.. แต่จริงๆเค้าก็พูดเหมือนกันนะคะ ทำนองว่าเป็นคำให้ศีลให้พร)
ปิดท้ายพิธีกลางคืน ด้วยการปล่อยโคมลอย ลอยโคมที่นี่ ถึงจะไม่เยอะเหมือนที่ไหน ๆ แต่ก็สวยงามประทับใจไม่แพ้กัน ^^
เช้าวันที่ 6 …. ตื่นมาด้วยความอาลัยอาวรณ์ วันนี้จะต้องกลับแล้ว หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็มาถ่ายรูปร่วมกับครอบครัว ว่าจะไม่ร้องไห้แล้วเชียว แต่พอกอดน้องกอดแม่ น้ำตาก็ไหลออกมาจนได้ T________T
เด็กๆมาเข้าแถวหน้าเสาธง ระหว่างรอเคารพธงชาติ ก็ร้องเล่นเต้นเพลงต่างๆกันอีกครั้ง เป็นการส่งท้าย
ครูขวัญ …. ผู้นำสันทนาการในทริปนี้ มีมุกเพียบ หาเพลงมาสอนเด็กได้ไม่รู้จบ แถมพลังยังเหลือเฟือ ทั้งนำเด็ก ทั้งเต้น ทั้งร้อง ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายก็ยังไหว หมูประทับใจครูขวัญมากๆ ^^ ถ่ายรูปร่วมกับเด็กๆก่อนแยกย้าย ถึงแดดจะแรงเราก็ไม่หวั่น 5555++
ได้เวลาอำลา …ครู ๆ ขนสัมภาระและขนตัวเองขึ้นท้ายรถอีกครั้ง มุ่งหน้ากลับสู่โลกความจริงที่รออยู่ สามวันที่ไปสร้างความปั่นป่วนและรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ถึงเวลาที่ต้องอำลากันแล้ว โรงเรียนคงจะดูเงียบเหงาไปถนัดใจ ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่เคยเป็นมา ในใจของครูอาสา ก็เงียบเหงาไปเช่นกัน ความผูกพัน ความประทับใจ ที่ก่อตัวผ่านรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังตราตรึงในความทรงจำเสมอ
แล้วหวังว่า คงจะได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งนะ ^^