อุปสรรคเป็นแค่เรื่องผ่านมาแล้วผ่านไป

หลายคนเป็นบอกว่า ปัญหามีไว้แก้บ้าง มีไว้วิ่งชนบ้าง แต่สำหรับผมปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ แค่เหตุการณ์หนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บางเรื่องก็จดจำได้บางเรื่องก็ไม่อยากจำ ก็เท่านั้นเอง

ขึ้นดอยเดือนนี้เป็นอีกเดือนที่ไม่กล้าอาจหาญชาญชัยตะลุยเดี่ยว เพราะประสบการณ์ที่เกิดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์สอนเราอย่างดี พร้อมทั้งเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีมาก่อน จึงได้รอขึ้นดอยพร้อมกันกับครูอีกหลาย ๆ หมู่บ้านรวมทั้งน้อง ๆ ครู กพด. ที่แน่นอนผมหวังลึก ๆ ว่าหากมีอะไรน้อง ๆ เหล่านั้นที่อยู่ในวัยยี่สิบต้น ย่อมสามารถช่วยผู้อาวุโสอย่างผมได้ รวมทั้งความเป็นชนเผ่าของน้อง ๆ ครู กพด. ทำให้เหมือนเป็นใบเบิกทางในการสื่อสารต่าง ๆ ด้วย

ในกลุ่มแม่ฮองที่เดินทางครั้งนี้มีครูทั้งหมด ๘ คน ๗ ศูนย์การเรียน รถมอเตอร์ไซด์ ๖ คัน เมื่อถึงสามแยกนาเกียน-ใบหนา เราก็ต้องแยกทางกัน กลุ่มผมแยกเข้าไปบ้านใบหนารถ ๔ คัน ๕ คน อีกกลุ่มแยกไปเส้นทางบ้านนาเกียน รถ ๒ คัน ๓ คน

หลังจากเดินทางผ่านไปได้ประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ถึงบ้านใบหนา ผมได้ตัดสินใจใส่โซ่ติดกับล้อตามคำแนะนำของครูหลาย ๆ คน ซึ่งเหลือระยะทางอีก ๒๐ กิโลเมตรนั้น ถนนโหดพอสมควรและก็เป็นจริงอย่างที่คิด มีรถผมคันเดียวที่ใส่โซ่ แล้วไม่มีอาหาร ลื่นไหล แฉลบ หรือล้อหลังแซงล้อหนา แต่น้อง ๆ ครู กพด. เหล่านั้น เป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ได้ติดโซ่ที่ล้อ ผมเห็นแล้วก็สงสารเหมือนกัน แต่ยังดีที่ร่างกายยังหนุ่มแน่น ทำให้เห็นภาพที่คนหนุ่มก็ออกอาการเหนื่อยหอบได้เหมือนกัน เพราะนอกจากถนนลื่นแล้ว บางจุดดินโคลนเลนลึกถึงหัวเข่าก็มี แต่ก็ต้องลุยเข้าไปเป็นทีมตามภาระกิจที่เรามี

ผ่านสามแยกผีปานมาได้สักพักก่อนถึงบ้านห้วยบง มาพบต้นไม้ล้มนอนขวางทางอยู่ต้องหยุดการเดินทาง และระดมกำลังแรงกาย ย้ายไม้ออกจากถนน เมื่อผมไปถึงเป็นคันที่ ๓ ก็พอมีแรง ที่จะขยับไม้ได้ จึงได้พากันลากไม้ออกจากถนน เป็นไม้ที่ตายแล้วลำต้นขนาด ๘-๑๒ นิ้ว จึงใช้กำลังคนไม่มากนัก ก็สามารถย้ายไม้ออกจากถนนได้

เมื่อถึงบ้านห้วยบง ผมตัดสินใจไปแวะบ้านกองดา ตามคำชวนของครูแซม (บ้านห้วยหวาย) แวะทักทายเยี่ยมครูบ้านกองดา ประมาณ ๓๐ นาที แล้วก็เดินทางไปบ้านแม่ฮองกลางถึงที่หมายเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น.

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.