ข้อความในเมล์เก่า ๆ ที่ส่งข่าวครูอาสา ตัดชื่อจริงนามสกุลจริงออก ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในเมล์นี้ใด ๆ ทั้งสิ้น
Date: Tue, 3 Nov 2009 03:14:57 -0800
From: suwan_phutphan at yahoo dot com
Subject: เมื่อวานไปศาลแขวงเยาวชนเชียงใหม่มาครับ
เรื่องคือ มีเด็กชนเผ่าลาหู่ที่บ้านป่าหนา เพิ่งได้บัตรประชาชนแล้วโดนชักชวน ไปทำงานในตัวจังหวัดเชียงใหม่ โดยเพื่อนรุ่นพี่เมื่อเดือน กันยายน 52 ที่ผ่านมา พอถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่มีงานทำ
เพื่อนรุ่นพี่ที่ชวนไป ก็เลยถามว่าจะหางานทำต่อ หรือจะกลับบ้าน เด็กคนนี้เลยบอกจะกลับบ้าน เพื่อนรุ่นพี่ที่ชวนไปบอกว่า ไม่มีเงินค่ารถ ถ้าอยากได้เงินค่ารถกลับบ้าน ให้ถือ “ยาบ้า 40 เม็ด” ให้จะ พาไปหาเงินค่ารถกลับบ้าน แล้วก็โดนจับทั้ง 2 คน
ผมไปเยี่ยมที่สถานพินิจ เมื่อเดือนกัยยายน ก็ได้สอบถามความเป็นไป ทางสถานพินิจได้สอบปากคำผมไว้ในฐานะที่เป็นครู ที่เคยอยู่ในชุมชนนั้น (ปัจจุบันไม่ได้สอน) โดยผมแจ้งทางสถานพินิจว่า หากจะติดต่อแม่/ผู้ปกครองของเด็ก ให้ติดต่อผ่านผมได้เนื่องจากผมอยู่ใกล้อำเภอ ติดต่อง่ายกว่าที่จะส่งจดหมายไปบนหมู่บ้าน ผมจะประสานงานให้
ตลอดเวลาที่ผมสอนอยู่ที่บ้านป่าหนา และเพื่อนครูที่อยู่ บ้านป่าหนาในปัจจุบัน เราต่างลงความเห็นว่า เด็กคนนี้เป็นคนดี ไม่ได้มีลักษณะและการกระทำไปในทางที่ไม่ดี โดยเด็กคนนี้ได้มาช่วยงานตลอด เมื่อมีการเรียกใช้งานและเป็นคนที่มีสัมมาคาราวะ
ควรจะไปสอบถามรายละเอียดให้รู้ด้วยตัวเอง โดยไม่ปักใจเชื่อว่าเด็กผิดหรือถูก ผมจึงเดินทางไปสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่
เด็กคนนี้ เป็นเด็กยากจน อาศัยอยู่กับแม่ อาจจะเป็นวัยรุ่นคนเดียวในหมู่บ้านที่ยังไม่มี โทรศัพท์มือถือใช้งาน แม่ของเด็กสุขภาพไม่แข็งแรง เดินทางไกลไม่ได้ มีพี่ชาย แม่คนเดียวกัน แต่คนละพ่อ ได้แต่งงานและแยกครอบครัวไปอยู่คนละบ้านเป็นเด็กที่เคยไปบวชอยู่ วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี (อ่านออกและเขียนได้) ยังไม่มีวุฒิทางการศึกษา ปัจจุบันกำลังเรียนระดับประถม กศน.อ.ไชยปราการ
เหตุที่ทำให้อยากไปทำงานเชียงใหม่คือ เมื่อต้นปี 2552 มีประเพณีกินวอ (ปีใหม่) ของชนเผ่ามูเซอ ได้ไปยืมเงินมาจำนวน 1,500 เพื่อใช้ในประเพณีกินวอและซื้อ เสื้อผ้าใหม่ตามประเพณี (ต้องใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ในระหว่างกินเทศกาลกินวอ) ต้องการไปทำงานในเมืองเชียงใหม่ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้สินที่ยืมมา
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 ศาลนัดพิพากษาตัดสิน โดยให้ไปเวลา 09.00 น. ในฐานะผู้ปกครอง ตามหมายศาล (เดินทางไปศาลพร้อมพี่ชาย) ศาลท่านปราณี ให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี พิพากษาปล่อยตัว และให้คุมประพฤติ 1 ปี
ไชยปราการเป็นพื้นที่เสี่ยงเกี่ยวกับยาเสพติดของเด็ก และเยาวชนพื้นที่สูง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมได้รับคำเตื่อนจากเพื่อนครูว่า “เอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับคนพื้นที่สูงเกินไป โดยเฉพาะคดียาเสพติด” ผมเชื่อว่าหากเราละทิ้งไม่สนใจเขา มันจะเป็นการผลักดัน ให้เขาไปยืนอยู่คนละมุม กับสิ่งที่ กศน.กำลังทำและบอกคนทั้งหลาย ในเมื่องานของเราคือการยกระดับการศึกษาประชากรให้มีความรู้ ให้เป็นพลเมืองไทยที่ดี
คาราวะจิตอาสา
หมายเหตุ ปัจจุบันเด็กคนนี้อายุ ๑๗ ปีแล้ว เรียน กศน.ระดับประถมศึกษาจะจบในเดือนมีนาคม ๕๔ ครูอาสารุ่นบุำกเบิกบางท่านคงได้รู้จักเด็กคนนี้แล้ว เนื่องจากเป็นมูเซอ คนเดียวท่ามกลางกะเหรี่ยงอมก๋อย ผมให้มาช่วยกิจกรรมและถ่ายภาพ บางท่านคงได้สนทนากับน้องเขาบ้างแล้ว