ความเชื่อการเลี้ยงผีไร่ ผีนา
การเลี้ยงผีไร่ผีนา ชุมชนกะเหรี่ยงเชื่อว่า จะทำให้ข้าวในไร่นาอุดมสมบูรณ์ ให้ผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภค
การเลี้ยงผีไร่ผีนา ชุมชนกะเหรี่ยงเชื่อว่า จะทำให้ข้าวในไร่นาอุดมสมบูรณ์ ให้ผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภค
ครูก้อยหนึ่งในอาสาสมัครที่เคยร่วมกิจกรรม เป็นผู้ที่คอยสนับสนุนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอยู่หลายกิจกรรม หลังจากที่ได้ร่วมกิจกรรมเมื่อปี 2552 ปัจจุบันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม 4Dekdoi และได้ร่วมกิจกรรม Visit Dekdoi 2012 เมื่อวันที่ 25 – 28 มกราคม 55 ที่ผ่านมา และคงได้เห็นสภาพบนดอยที่เปลี่ยนไป จึงได้ถามผมว่า “เป้าหมายคืออะไร” เป็นคำถามที่ผมต้องคิดย้อนกลับไปเมื่อมาเป็นครูอาสาในกลางเดือนมีนาคม 2553 สภาพที่เห็นในตอนนั้น มันไม่มีอะไรเลย มีแต่อาคารเรียนที่ใช้ในการเรียนการสอนอย่างเดียวเท่านั้น สวนกล้วยที่มีรอบบริเวณถามไปถามมา ก็ไม่ใช่ของศูนย์การเรียน แล้วอะไรที่ควรทำตามเป้าหมายที่ได้รับมอบมา หลาย ๆ กิจกรรมจึงเป็นการทำแบบผสมผสานดังนี้ – กลุ่มเป้าหมายนักเรียนด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร 3 – 15 ปี – ส่งเสริมการรู้หนังสือในกลุ่มผู้ใหญ่-ผู้ใช้แรงงาน – การส่งเสริมสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก – การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม – การอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น – การส่งเสริมภาวโภชนาการในเด็กวัยเรียน – โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน – การลดภาวะการขาดสารไอโอดีนในเด็กพื้นที่สูง – กิจกรรมด้านอนามัยเด็กวัยเรียน การที่เด็กในชุมชนเติบโตขึ้นมาเมื่ออายุได้ 14
อึ่งอ่างที่ว่านี้ไม่ใช่อึ่งจริง ๆ หรอกครับ เป็นคำพูดที่ชาวบ้านพูดให้ได้ยิน ในวันหยุดงานประจำเดือนวันหนึ่งของชาวบ้านบนดอย เพราะคืนที่ผานมาได้เกิดจันทรุปราคาขึ้น ชาวบ้านบอกว่าเมื่อคืน มีการเอาปืนมายิง ตีเกราะ เคาะไม้ เพื่อไล่อึ่งอ่างกินเดือน ฟังแล้วคุ้น ๆ กับเรื่องราวที่เคยได้ยินสมัยเป็นเด็ก เรื่องกบกินเดือน โชคดีผมเคยซื้อสื่อโปสเตอร์เกี่ยวกับระบบสุริยจักรวาล เมื่อสบโอกาส ผมก็ชี้ให้ดู นี่ไงเหตุการเมื่อคืน เกิดจาก เงาของโลก ไปบังแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดเหตุการจันทรุปราคาเกิดขึ้น ชาวบ้านและเด็ก ๆ รู้สึกสนใจในปรากฎการณ์นี้ และสิ่งที่ผมได้อธิบายให้ฟัง ได้ข่าวว่าจะเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนจะขึ้นดอย แต่พอขึ้นไปอยู่บนดอย ด้วยที่ไม่มีการติดต่อสื่อสารใด ๆ กับภายนอก จึงทำให้ลืมวันที่เกิด มารู้เอาก็ตอนนี้เด็ก ๆ และชาวบ้านหยุดกิจกรรมในไร่ ทุกอย่างเพื่ออยู่กับบ้าน ส่วนเด็ก ๆ ก็มาเรียนกันครบทุกคน ไม่ว่าชาติ ศาสนาใด ผมเชื่อว่าต่างมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ช่างบังเอิญ หรือความใกล้ชิดทางภูมิปัญญา เพียงแต่จะใช้สัญลักษณ์ของสัตว์แตกต่างกันออกไป ชนเผ่ากะเหรี่ยงว่าอึ่งอ่างกินเดือน ทางภาคอิสานและภาคเหนือ ว่ากบกินเดือน มนุษย์เราไม่ว่าจะแตกต่างทางด้านภาษา สำเนียงพูด เผ่าพันธุ์ แต่ไม่แน่ว่าเราอาจจะมีบรรพบุรุษจากเซลต้นกำเนิดเดียวกันก็เป็นได้
เหมือนจะเคยอ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับธรรมะ ที่บอกว่ามนุษย์สมัยก่อน อยู่กับธรรมชาติและความกลัว กลัวนั่น กลัวนี่ เลยต้องมีพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อมาบวงสรวง บูชาธรรมชาติขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจจากภัยธรรมชาติ หรือไม่ให้ธรรมชาติลงโทษนั้นเอง เมื่อมีพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าสอนว่า ไม่ให้เชื่อสิ่งต่าง ๆ จนกว่าจะได้พิจารณาให้ถ่องแท้แล้วตามหลักกาลามะสูตร ๑. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่าฟังจากคนอื่นเขาบอกต่อ ๆ กันมา ๒. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่าเห็นเขาทำตามๆกันมา ๓. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่าผู้คนกำลังเล่าลือกันอยู่ ๔. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่ามีตำราอ้างอิง ๕. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่ามีเหตุผลตรงๆมารองรับ(ตรรกะ) ๖. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่ามีเหตุผลแวดล้อมมารองรับ(ปรัชญา) ๗. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่านึกเดาเอาตามสามัญสำนึกของเราเอง ๘. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่ามันตรงกับความเห็นเดิมที่เรามีอยู่ ๙. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่าผู้พูดผู้สอนนี้อยู่ในฐานะที่น่าเชื่อถือ ๑๐. อย่าเชื่อและรับเอามาปฏิบัติ เพียงเพราะว่าผู้พูดผู้สอนนี้เป็นครูอาจารย์ของเราเอง เมื่อพายุฝนเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม แบบติดกันหลายวัน ในช่วงที่ผ่านมา ในมุมดี ๆ สำหรับสวนเกษตรในศูนย์การเรียนคือไม่ต้องรดน้ำสวนเกษตรบ่อย และคลายความร้อนลงไปได้